ไข้หวัดธรรมดา จะมีไข้เป็นพักๆ คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ แต่จะไม่ปวดเมื่อยมาก มักมีไข้อยู่นาน ๒-๔ วัน ๒. ไข้หวัดใหญ่จากเชื้อสายพันธุ์อื่น จะมีอาการแบบเดียวกับไข้หวัดนก คือ ไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ น้ำมูกไหล ไอแห้งๆ ๓. หัด จะมีไข้สูงตลอดเวลา หน้าแดง ตาแดง ซึม เบื่ออาหาร น้ำมูกไหล ไอมาก หลังมีไข้ ๓-๔ วันจะมีผื่นแดงขึ้นตามใบหน้า ลำตัว แขน ขา มักมี ไข้สูงอยู่ ๑ สัปดาห์ แล้วทุเลาได้เอง ในรายที่เป็นรุนแรง อาจมีอาการหอบ (ปอดบวม) ท้องเดิน หรือชัก (สมองอักเสบ) ๔. ทอนซิลอักเสบ จะมีไข้สูง เจ็บคอ ตรวจพบทอนซิลบวมแดงหรือเป็นหนอง ๕.
เผยแพร่ครั้งแรก 10 ม. ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ. ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 5 พ. 2020 เวลาอ่านประมาณ 4 นาที ไข้หวัดนก (Avian influenza) เป็นโรคระบาดที่เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อ พ. ศ. 2547 ถึง 2 ครั้งด้วยกัน ส่งผลให้มีสัตว์ปีก เช่น เป็ด ไก่ ห่าน นกกะทาล้มตายเป็นจำนวนมาก และบางส่วนก็จำเป็นต้องถูกกำจัดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค มีรายงานว่า ครั้งนั้นประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกจำนวน 17 ราย และเสียชีวิตมากถึง 12 ราย แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ สั่งยา ปรึกษาข้อมูลเบื้องต้น จากร้านยาใกล้บ้านคุณได้ง่ายๆ เริ่มจากแชทกับเภสัชกรที่มีใบอนุญาตผ่านแอปของเรา ฟรี!
นอนพักให้เต็มที่ ๒. ห้ามอาบน้ำเย็น ขณะมีไข้สูงให้ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตัวบ่อยๆ ๓. ดื่มน้ำมากๆ ประมาณชั่วโมงละ ๑_๒ แก้ว ๓. กินอาหารอ่อนที่ย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก หากเบื่ออาหาร พยายามดื่มน้ำหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้ นมให้มากๆ ๕. เวลามีไข้สูงให้กินยาลดไข้ พาราเซตามอล (หลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพริน หรือยาแก้ไข้ชนิดอื่น) ผู้ป่วยควรรีบไปพบแพทย์ เมื่อมีลักษณะข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้ ๑. มีประวัติสัมผัสสัตว์ปีกที่ป่วยหรือตายภายใน ๗ วันก่อนไม่สบาย ๒. อยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของไข้หวัดนก ๓. มีอาการหนาวสั่น หรือหายใจหอบ ๔.
ในช่วงโรคระบาดผู้ปกครองต้องเอาใจใส่ระมัดระวังดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด เตือนไม่ให้เด็กใกล้ชิด สัมผัสสัตว์ปีกหรือซากสัตว์ที่ตาย ให้เด็กหมั่นล้างมือบ่อยๆ 5. เป็ด ไก่และไข่ที่นำมารับประทานต้องปรุงให้สุก 100% ด้วยความร้อน สัตว์ปีกที่ตายผิดปรกติห้ามนำมารับประทานเด็ดขาด 6. ถ้าพบสัตว์ปีกตายจำนวนมากผิดปรกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดหรือกรมปศุสัตว์ 7. รักษาร่างกายให้แข็งแรง หมั่นออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อ้างอิง
เลี่ยงสัมผัสไก่นกตาย กินสุก ล้างมือทุกครั้งหลังสัมผัสสัตว์ปีกสิ่งคัดหลั่ง 2. ผู้มีอาการไอ ไข้ ควรซักประวัติ อาชีพเลี้ยง ขาย ชำแหละ ขนส่ง ทำลายซาก ที่เกี่ยวข้องสัตว์ปีก วัคซีน วัคซีนชนืดเชื้อตาย สำหรับ H5N1 มีแล้ว แต่ยังไม่ค่อยมีที่ใช้ Ref
2007 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ได้รับรองว่า มีวัคซีนชนิดหนึ่งที่ใช้รักษาไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ได้ วัคซีนนี้ไม่มีขายทั่วไป แต่มีการกักตุนไว้เพื่อใช้ในกรณีเกิดภาวะไข้หวัดนกฉุกเฉินแห่งชาติ* (*อ้างอิงจากวารสารไวรัสวิทยาในเดือนพฤษภาคม ค. 2015 ที่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยรัฐแคนซัสประกาศถึงการพัฒนาวัคซีนไข้หวัดนก H5N1 และ H7N9 ที่ใช้สำหรับสัตว์ปีก) การระบาดของโรคไข้หวัดนก มนุษย์ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N1 ครั้งแรกใน ค. 1997 ในช่วงที่มีการระบาดของโรคในสัตว์ปีกที่ประเทศจีน และเริ่มแพร่กระจายหนักขึ้นใน ค. 2003-2004 โดยทำให้เกิดการติดเชื้อมากกว่า 700 รายทั่วทั้ง 15 ประเทศ และมีอัตราการเสียชีวิตถึง 60% ทั้งนี้พบว่า อินโดนีเซีย เวียดนาม และอียิปต์ มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัส H5N1 มากที่สุด ข้อมูลจากองค์กรอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ไวรัสไข้หวัดนก H7N9 ติดเชื้อครั้งแรกในมนุษย์ 3 คนที่ประเทศจีนเมื่อ ค.
> > โรคไข้หวัดนก – Инфекция H5N1 รายละเอียดของโรคไข้หวัดนก ไข้หวัดนก – ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์, ซึ่งส่วนใหญ่ติดเชื้อในนก. ในเอเชียและแอฟริกามีกรณีของโรคไข้หวัดนก, ที่ติดเชื้อมนุษย์. จนถึงขณะนี้มีกรณีไม่กี่คน โรคของมนุษย์. แต่, ผู้ป่วยที่ติดเชื้อจำนวนมากมีผู้เสียชีวิต. ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพบางคนมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการแพร่ระบาดของโรค. การระบาดกระจายทั่ว – การระบาดทั่วโลก. แต่ตอนนี้ไวรัสหยุดการแพร่กระจาย. สาเหตุของการเกิดโรคไข้หวัดนก ไวรัส, ที่ก่อให้เกิดโรคไข้หวัดนกของไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด. บางครั้งไวรัสสามารถกลายพันธุ์. การกลายพันธุ์เหล่านี้สามารถก่อให้เกิดการติดเชื้อของสุกรหรือมนุษย์. คน, ที่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับนกที่ติดเชื้อหรือหมู, อาจทำสัญญาไวรัส. นอกจากนี้ยังมีความกังวล, ว่าไวรัสจะกลายพันธุ์อย่างจริงจัง, ที่จะช่วยให้มันจะส่งโดยตรงระหว่างมนุษย์. ไวรัสจะไม่ถูกส่งผ่านนกกินสุกดี, ไข่หรือผลิตภัณฑ์เนื้อหมู. ผู้ป่วยทุกรายในการติดต่อกับสัตว์ที่ติดเชื้อผ่านการเลือกดังต่อไปนี้: น้ำลายหรือเลือด;. น้ำมูก; ของเสีย. ปัจจัยเสี่ยง ปัจจัยเสี่ยง ได้แก่: สัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์ที่ติดเชื้อ, เช่น: เป็ด; ห่าน; ไก่; ไก่งวง; สุกร; การเดินทางไปยังพื้นที่, ที่กรณีเอกสารของโรคไข้หวัดนก: ประเทศไทย; ประเทศจีน; เวียดนาม; ประเทศกัมพูชา; อินโดนีเซีย; สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว; เนเธอร์แลนด์; อียิปต์.
ทางตรง จากการสัมผัส คลุกคลีกับสัตว์ที่ป่วยเป็นโรคไข้หวัดนก 2. ท างอ้อม จากการกินอาหารที่ปะปนด้วยเชื้อของสัตว์ที่ป่วยเป็นไข้หวัดนก ซึ่งเชื้อจะมาจากสารคัดหลั่งของสัตว์ คือ อุจจาระ น้ำมูก น้ำตา น้ำลาย อาการ ไข้สูงมากว่า 38 องศาเซลเซียส ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยเนื้อตัว อ่อนเพลีย เจ็บคอ ไอ หายใจลำบาก ปอดอักเสบ และอาจมีตาแดงและ อาการของระบบทางเดินอาหารแทรก เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง ร่วมด้วย การรักษา ปัจจุบันมีการใช้ยาทามิฟลูสำหรับรักษาคนไข้ที่ต้องสงสัยว่าเป็นไข้หวัดนก ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดเชื้อไวรัสดื้อยาขึ้นได้ แต่ขณะนี้ยังไม่พบการดื้อยา การป้องกัน 1. ในช่วงที่มีการระบาดไม่ควรใช้มือเปล่าสัมผัสสัตว์ปีกที่ตาย ต้องสวมถุงมือ สวมผ้าปิดปากปิดจมูก ล้างมือด้วยสบู่และน้ำทุกครั้ง หากไม่มีถุงมือให้สวมถุงพลาสติกซ้อนกันหลายๆชั้นก่อนจับซากสัตว์ 2. สัตว์ปีกที่ป่วยตายให้เผาหรือฝัง โดยขุดหลุมลึกอย่างน้อย 1 เมตรก่อนกลบดินให้ราดด้วยคลอรีนหรือโรยปูนขาวก่อนทำการฝังกลบดินให้แน่น ห้ามนำซากสัตว์ที่ตายทิ้งลงแม่น้ำลำคลองหรือนำไปให้สัตว์กิน 3. ผู้มีอาชีพเลี้ยง ฆ่า ขนส่งย้ายสัตว์ปีกหรือผู้ที่สัมผัสสัตว์ปีกหากมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ให้รีบไปพบแพทย์แล้วบอกประวัติการสัมผัสสัตว์ปีกหรือเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยปอดบวมในรายอื่นๆในรอบ 10 วันก่อนมีอาการ ให้แพทย์ทราบทันที 4.
อาการของโรคไข้หวัดนก อาการเหล่านี้อาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ. เมื่อพวกเขาเกิดขึ้นควรปรึกษาแพทย์. อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่, เช่น: ไข้; หนาว; ไอ; เจ็บคอ; โรคท้องร่วง, อาเจียน; อาการปวดท้องและ / หรืออาการเจ็บหน้าอก. ในกรณีที่รุนแรงมากขึ้นโรคปอดบวมอาจเกิดขึ้นได้ (เสริมสร้างความเข้มแข็งไข้, ไอ, และหายใจถี่), ปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดและอวัยวะล้มเหลวหลาย (อาจมีผลต่อไต, ตับ, ปอดและหัวใจ). การวินิจฉัยของโรคไข้หวัดนก หมอถามเกี่ยวกับอาการและประวัติทางการแพทย์, และดำเนินการตรวจร่างกาย. ไวรัสสามารถระบุได้โดยการวิเคราะห์เลือด. การรักษาของโรคไข้หวัดนก ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา, เพื่อหาตัวแทนไวรัสที่มีประสิทธิภาพ. บางเครื่องมือที่ทันสมัยไม่ได้มีประสิทธิภาพต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่. ต้านไวรัส, ที่ปรากฏมีประสิทธิภาพต่อโรคไข้หวัดนกรวมถึง: zanamivir (Relenza); ยานี้อาจเลวลงสภาพของผู้ป่วยที่มีโรคหอบหืดหรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (ปอดอุดกั้นเรื้อรัง); Oseltamivir (Tamiflu) – คือการรักษาที่แนะนำสำหรับโรคไข้หวัดนก; Oseltamivir (และ, บางที, zanamivir) อาจเพิ่มความเสี่ยงของการบาดเจ็บให้กับตัวเองและการลดลงของความสนใจหลังจากการบริโภค, โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็ก.