ก. ส. )
เตือนวันจ่ายเงินสมทบประกันสังคมวันสุดท้าย ก่อนอดรับเงิน 5000 บาท ไม่จ่ายวันนี้อดเงินเยียวยาแน่นอน ใครยังไม่จ่ายรีบเลยก่อนหมดวันที่ 10 ส. ค. นี้ สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด เตือนวันจ่ายเงินสมทบประกันสังคมวันสุดท้าย ก่อนอดรับเงิน 5000 บาท โค้งสุดท้ายแล้วสำหรับท่านที่เป็นกลุ่มอาชีพอิสระพ่อค้าแม่ค้าหรือแรงงานอิสระตามกฎหมายมาตรา 40 เวลานี้สำนักงานประกันสังคมเตือนให้ท่านรีบจ่ายเงินงวดแรก ภายใน 10 ส.
64 - 31 ม. 65) เหลือเป็นเงินที่ต้องจ่ายสมทบ คือ 42 บาท, 60 บาท และ 180 บาท ตามลำดับ ที่มา: สำนักงานประกันสังคม
22 ก. ค. 2564 เวลา 15:18 น. จากกรณี ครม. อนุมัติจ่ายเงินเยียวยาผู้ประกันตน และอาชีพอิสระ ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ครอบคลุม 9 สาขาอาชีพ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการโควิด 19 ฉบับล่าสุด ซึ่งคนที่เป็นฟรีแลนซ์ ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม ก็สามารถรับเงินเยียวยาได้ด้วย โดยการสมัครประกันสังคม มาตรา 40 สำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ อย่างไรก็ตามหลายคนยังกังวลว่า ถ้าสมัครประกันสังคม ม.
33) - ไม่เป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจ (ม.
สำนักงานประกันสังคม เปิดเผยช่องทางสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ง่าย ๆ ได้หลายช่องทาง ได้สิทธิความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ถึง 3 ทางเลือก เพียงใช้บัตรประชาชนใบเดียว พร้อมจ่ายเงินสมทบทันที ทุกช่องทางการสมัครและชำระเงินไม่เสียค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด ส่งต่อเรื่องนี้ให้เพื่อน! Tweet
จากกรณี "สินมั่นคง" บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด ได้ออกมาประกาศ บอกเลิกกรมธรรม์ "ประกันโควิดเจอจ่ายจบ" ประกันภัยไวรัสโคโรนา แบบ เจอ จ่าย จบ หรือ COVID 2 in 1 โดยระบุว่า บริษัทฯ ต้องขออภัยลูกค้าเป็นอย่างสูงที่มีความจำเป็นที่จะต้องบอกเลิกสัญญากรมธรรม์แบบ เจอ จ่าย จบ หรือ COVID 2 in 1 ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากภาวะการระบาดของโรคติดเชื้อ โควิด-19 ที่มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และมีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงจนคาดเดาสถานการณ์ไม่ได้ โดยต่อมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ. ) ได้มีคำสั่งอย่างเป็นทางการ ในฐานะนายทะเบียน ให้ยกเลิกเงื่อนไขการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโดยบริษัท สำหรับกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 ที่บริษัทได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนและกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 ที่บริษัทได้ออกให้แก่ผู้เอาประกันภัยก่อนวันที่มีคำสั่งนี้ และยังคงมีผลบังคับใช้ เว้นแต่ปรากฏหลักฐานชัดเจนต่อบริษัทว่าผู้เอาประกันภัยได้กระทำการทุจริตหรือฉ้อฉลประกันภัยเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับผลประโยชน์จากการประกันภัยนี้