ศ.
ทั่วไป 12 ม. ค. 2565 เวลา 14:04 น. 847 ดร. อนันต์ จงแก้ววัฒนา โพสต์เฟซบุ๊กประเด็น โควิด-19 "โอมิครอน" หลังจากที่ติดตามข้อมูลมาสักระยะหนึ่ง เผยจับตา โอมิครอนตัวน้อง BA. 2 หรือก่อนหน้านี้เรียกว่า ไวรัสล่องหน แพร่ไวมากและเริ่มพบในหลายประเทศ ดร. อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช. ) โพสต์เฟซบุ๊กประเด็น โควิด-19 "โอมิครอน" หลังจากที่ติดตามข้อมูลมาสักระยะหนึ่ง เผยจับตา โอมิครอนตัวน้อง BA. 2 ที่เริ่มพบในหลายประเทศโดยเฉพาะอินเดีย ซึ่งมีคุณสมบัติแพร่เชื้อได้ไวกว่าตัวเดิมไปอีก อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง - EIC ส่อง 'โอมิครอน'ฉุดเศรษฐกิจโลก ชะลอกว่าที่คาด 0. 3-0. 4% - ผ่าแผนรับมือ "โอมิครอน" สกัด "โควิด" ระบาด กทม. ระลอกใหม่ - "วัคซีนไฟเซอร์" ตัวใหม่ ต้านโอมิครอนพร้อมใช้ มี. 2565 นี้ เฟซบุ๊ก ดร. อนันต์ จงแก้ววัฒนา โพสต์ประเด็น โควิด-19 "โอมิครอน" ระบุว่า ตอนนี้เหมือนจะชัดเจนขึ้นในหลายประเทศโดยเฉพาะในอินเดียว่า โอมิครอนตัวน้อง หรือที่ก่อนหน้านี้เรียกชื่อกันว่า โอมิครอนเวอร์ชั่นล่องหน (Omicron Stealth) หรือ BA.
2 มีแนวโน้มการกระจายตัวเองได้ไวกว่าโอมิครอนรุ่นพี่ หรือ BA. 1 ที่มีต้นกำเนิดมาจากแอฟริกาใต้ ตัวเลขของตัวอย่างไวรัสที่ตรวจในหลายประเทศเห็นแนวโน้มแบบเดียวกันคือ ตัวอย่าง BA. 1 เริ่มลดลงขณะที่ BA. 2 เริ่มสูงขึ้นชัดเจน ถึงแม้ว่า BA. 2 จะมีการกลายพันธุ์หลายตำแหน่งเหมือน BA. 1 แต่ไวรัสตัวนี้มีจุดสำคัญหลายตำแหน่งที่เป็นคุณสมบัติของตัวเอง และที่แตกต่างชัดเจนคือ BA. 2 ขาดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมในยีนโปรตีนหนามสไปค์ ที่เรียกว่า S gene dropout ( DEL69-70) หรือการตรวจไม่พบยีนหนาม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญช่วยให้ตรวจพบโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิมด้วย RT-PCR อย่างรวดเร็ว ทำให้ยากต่อการตรวจวัด จึงเป็นที่มาของคำว่า "ล่องหน" ของชื่อไวรัสตัวนี้ครับ แต่ทั้งนี้ยีนอื่นยังตรวจได้ RT-PCR จะยังตรวจพบ BA. 2 แต่แยกออกจากสายพันธุ์อื่นๆอย่างเดลตาไม่ได้ น่าสนใจว่าไวรัส 2 สายพันธุ์นี้แตกต่างกันไม่มากนัก แต่ถ้า BA. 2 วิ่งไวกว่า BA. 1 จะทำให้นักวิจัยสามารถเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง 2 สายพันธุ์ได้ชัดขึ้น ตำแหน่งไหนที่ทำให้ไวรัสวิ่งได้ไว ไม่แน่นะครับโอมิครอนตัวหลักอาจโดนตัวน้องเอาชนะได้ในอีกไม่นานครับ อารมณ์ในอินเดียเหมือนตอนไวรัสตัวพี่ของเดลตา B.